มือใหม่เล่นหุ้น ต้องเริ่มต้นกี่บาท

มือใหม่เล่นหุ้น ต้องเริ่มต้นกี่บาท

มือใหม่หลายท่าน ไม่กล้าตัดสินใจเริ่มลงทุนในหุ้น เพราะไม่ทราบว่าควรเริ่มอย่างไรดี ต้องใช้เงินกี่บาทถึงจะเริ่มได้ ในบทความนี้จะแนะนำข้อมูลพื้นฐานที่ผู้เริ่มต้นควรทำความเข้าใจไว้เพื่อการเริ่มต้นที่ดี และบอกด้วยว่า เพียงไม่กี่บาท ก็เล่นหุ้นได้เหมือนกัน!

การเปิดพอร์ตหุ้นหรือบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ เราสามารถเปิดกับโบรกเกอร์ด้วยตนเอง เลือกโบรกเกอร์ที่เราสนใจ หรือเราสามารถซื้อหุ้นผ่านกองทุนรวมหุ้นจากธนาคารพาณิชย์โดยทั่วไปซึ่งมักจดทะเบียนเป็นโบรกเกอร์ที่ให้บริการซื้อขายหุ้นและหลักทรัพย์อื่น ๆ เช่นกัน

ประเภทพอร์ตหุ้น

ในการลงหุ้นในหุ้น คุณจะต้องมีบัญชีเงินไว้สำหรับการส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์หรือสินค้าโภคภัณฑ์ที่สนใจ หรือที่คนมักจะเรียกกันว่า “พอร์ตหุ้น” บัญชีเดียว คุณสามารถทำการเทรดได้หลากหลายสินทรัพย์โดยขึ้นกับข้อกำหนดและความพร้อมในการให้บริการของโบรกเกอร์ด้วย หากเป็นการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ของไทย เราจะมีให้เลือกได้ 3 ประเภทบัญชีซื้อขาย

• บัญชี Cash Balance

เหมาะสำหรับนักเล่นหุ้นมือใหม่ เติมเงินเข้าไปในบัญชี และใช้ได้ตามยอดที่เติมเงินเข้าไป ไม่สามารถซื้อหุ้นได้เกินกว่าเงินในบัญชี คล้ายโทรศัพท์มือถือแบบเติมเงิน

• บัญชี Cash Account

เป็นการขอวงเงินจากโบรกเกอร์ โดยแสดงหลักทรัพย์ที่มีเพื่อขออนุมัติวงเงิน มีการวางหลักประกันบางส่วนในบัญชีเป็นสัดส่วนตามวงเงินที่ขอ นักเล่นหุ้นลงทุนก่อน จ่ายทีหลัง 

• บัญชี Credit Account

เป็นการลงทุนโดยมีเงินเราส่วนหนึ่ง และกู้เงินส่วนหนึ่งจากโบรกเกอร์ โดยการอนุมัติวงเงินกู้ มีการวางหลักประกันบางส่วนในบัญชี เป็นสัดส่วนตามวงเงินที่ขอกู้ 

ในการเล่นหุ้นเบื้องต้น เราขอแนะนำให้ใช้บัญชี Cash Balance ไปก่อน เพื่อให้คุณควบคุมค่าใช้จ่ายได้ แล้วเมื่อจับทิศทางตลาดหรือมีความชำนาญมากขึ้น ค่อยขยับไปสู่วิธีการที่ท้ายทายกว่าต่อไป

เอกสารเปิดพอร์ตหุ้น

1. บัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทางกรณีเป็นชาวต่างชาติ ผู้ที่สามารถซื้อขายหุ้นได้ ต้องมีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
2. สมุดบัญชีธนาคาร สำหรับรับเงินปันผลและค่าขายหน่วยลงทุน หลังจากการหักภาษี ณ ที่จ่ายแล้ว
3. ทะเบียนบ้าน บางแห่งอาจเรียกเอกสารนี้

ค่าธรรมเนียมที่จำเป็นสำหรับการซื้อขายหุ้นครั้งแรกคืออะไร

สิ่งสำคัญเบื้องต้นของการเล่นหุ้นคือ การรู้จักค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่าย หากคุณทราบค่าใช้จ่ายที่จำเป็นแล้ว คุณจะประมาณการณ์ได้ว่าคุณจะต้องจ่ายเงินเท่าไรตอนซื้อ หรือคุณจะได้เงินเท่าไรตอนขาย หรือรับเงินปันผล ค่าธรรมเนียมอาจมีความแตกต่างตามแต่ละโบรกเกอร์ บางโบรกเกอร์อาจกำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำต่อวัน แต่อย่างไรก็ตาม ราคาจะไม่ต่างกันมากเพราะมีหน่วยงานอย่างตลาดหลักทรัพย์ควบคุมด้วย

รายงานล่าสุดในปี พ.ศ. 2564 สูงสุดอยู่ที่ 0.157% และต่ำสุด 0.065% คำนวณเรียกเก็บจากยอดซื้อและขาย ส่วนอัตราเรียกเก็บขั้นต่ำต่อวันแม้ไม่มีการซื้อขายอยู่ที่ 30-50 บาท/วัน

ต่อไปนี้คือตัวอย่างของอัตราเรียกเก็บคอมมิชชั่นของโบรกเกอร์ไทยส่วนใหญ่

• อัตรา 0.157%

ประกอบด้วย กสิกรไทย, กรุงไทย, ซีมิโก้, ไทยพาณิชย์, ทิสโก้, ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี, แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์, เคจีไอ, หยวนต้า, ฟิลลิป

• อัตรา 0.150%

ประกอบด้วย บัวหลวง, กรุงศรี, ธนชาต, เมย์แบงก์ กิมเอ็ง, โนมูระ พัฒนสิน, ฟินันเซีย ไซรัส, เอเซีย พลัส

• อัตรา 0.065%

จีเอ็มโอ-แซด คอม

• อัตรา 0.075%

เอสบีโอ ไทย ออนไลน์

โบรกเกอร์ที่คิดค่าธรรมเนียมขั้นต่ำรายวัน ประกอบด้วย

• 50 บาท/วัน

คือ กสิกรไทย, กรุงศรี, ธนชาต, เมย์แบงก์ กิมเอ็ง, เคจีโอ, โนมูระ พัฒนสิน, และ

• 30 บาท/วัน

คือ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์

สำหรับการเล่นหุ้น เรามองหาโบรกเกอร์ และธนาคารก็จดทะเบียนเป็นโบรกเกอร์ด้วย แต่การเล่นหุ้น หากกระทำผ่านกองทุนรวมหุ้น นักเล่นหุ้นมือใหม่ควรเข้าใจด้วยว่า เราแบ่งผู้บริการกองทุนรวมหุ้นได้อีกเป็น 2 ประเภท

1. บลจ. คือ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนหรือผู้ออกกองทุน
2. บล. คือ โบรกเกอร์ที่เราใช้บริการ ซึ่งกรณีที่เราซื้อกองทุนหุ้นรวมกับทาง บล. ก็คือการนำเงินที่ฝากเข้า บล. ไปลงทุนกับ บลจ. โดยจริง ๆ เราจะทำการซื้อกองทุนหุ้นรวมซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ออกโดยธนาคารที่ธนาคารซึ่งคือ บลจ. ก็ได้เช่นกัน แต่ทาง บล. หลายแห่งได้มีการให้บริการตรงนี้เป็นลักษณะ one-stop-service โดย บล. แห่งหนึงสามารถขายกองทุนหุ้นรวมของ บลจ. หลายแห่ง

นอกจากการลงทุนผ่าน บลจ. และ บล. คุณยังสามารถทำกำไรโดยคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของราคาล่วงหน้า ผ่านโบรกเกอร์สัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD Broker) ซึ่งเน้นการให้บริการซื้อขายสัญญาซื้อขายส่วนต่าง โดยคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงราคาล่วงหน้าว่าจะสูงหรือต่ำในระยะเวลาหนึ่ง ๆ เพื่อทำกำไรในตลาดใหญ่ ๆ อย่างตลาดสหรัฐอเมริกา ซึ่งโบรกเกอร์นี้มักให้บริการครอบคลุมการทำกำไรบนราคาสินทรัพย์อื่น ๆ ด้วย เช่น คู่สัญญาแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ สินทรัพย์ดิจิตอล และสินค้าโภคภัณฑ์ โดยโบรกเกอร์ประเภทนี้ มักจะกำหนดเงินฝากขั้นต่ำเริ่มต้นในการเปิดพอร์ต และอาจมีค่าธรรมเนียมในการถอนเงินซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับรายรับด้วย

เล่นหุ้นต้องมีเงินเท่าไร

ช่วงเริ่มต้น หลายคนอาจจะยังมีคำถามเยอะและกังวลใจ เป็นความรู้สึกที่มักเกิดขึ้นเมื่อเราได้หันมาทำสิ่งใหม่ ๆ ที่ท้าทาย ลองคิดว่าการเล่นหุ้นเหมือนกับการไปทดลองกินอาหารที่ร้านอาหารเปิดใหม่ เรามักเลือกอาหารที่หน้าตา คาดหวังความอร่อย และราคาต้องเหมาะสมกับความคาดหวังและเงินในกระเป๋าของเราด้วย เพื่อความอิ่มและความสุขใจของเราเอง

การเล่นหุ้น พอเปรียบเป็นอาหาร ตัวเลือกบนกระดานหุ้นมีมากมาย แต่ในประสบการณ์ครั้งแรกของนักเล่นหุ้นมือใหม่ ขั้นต่ำของการเทรดในกระดานหลัก คุณต้องซื้อ 100 หน่วย นักเล่นหุ้นควรเริ่มตรวจสอบราคาหุ้นแต่ละตัว คิดถึงที่มาของหุ้น ราคาก็เรื่องหนึ่ง แต่นักเล่นหุ้นหลายคนคงอยากเลือกบริษัทที่ถูกใจคุณด้วย 

พอเลือกหุ้นเป้าหมายที่ถูกใจได้แล้ว เรามาลองคำนวณเงินขั้นต่ำที่คุณจะใช้เพื่อเปิดการซื้อของตัวเองกัน อย่าลืมคำนวณหักค่าคอมมิชชั่นบนจำนวนเงินที่คุณต้องการเพิ่มเข้าสู่บัญชีการซื้อขายก่อนด้วยนะ

เริ่มเล่นหุ้นต้องมีเงินลงทุนเท่าไรนะ… บางคนอาจจะอยากได้คำตอบที่ชัดเจน อย่างนั้นเรามาลองคำนวณจากราคาบุฟเฟต์ดี ๆ สักมื้อ ลองคำนวณกันดูว่าการใช้เงินขั้นต่ำ 1,000 บาท ถ้าค่าคอมมิชชั่นอยู่ที่ 0.157% เหมือนกับค่าธรรมเนียมการบริการที่ร้านอาหาร เท่ากับว่างบประมาณที่เราใช้ไปกับการซื้อหุ้นจริง ๆ จะอยู่ที่ 998.43 บาท  ช่วงราคาของหุ้นที่เราเข้าเลือกซื้อหามาครอบครองได้ จะอยู่ในช่วงราคาไม่เกิน 9.9843 บาท 

หรือลองลดงบประมาณให้ต่ำลงมาอีกครึ่ง เป็นราคาบุฟเฟ่ต์ชุดเล็ก คือ 500 บาท คำนวณอย่างคร่าว ๆ แล้ว ที่คอมมิชชั่น 0.157% ขอบเขตงบประมาณที่สามารถซื้อได้จริง จะตกอยู่ที่ไม่เกิน 499.215 บาท ราคาของหุ้นที่จะลงทุนได้ ต้องอยู่ในช่วงราคาไม่เกิน 4.9922อาหารแบบจานเดียว และบุฟเฟ่ต์ อาจจะทำให้คุณอิ่มเพียงหนึ่งมื้อ แต่หุ้นมักให้ผลตอบแทนที่สูงในระยะยาว ปัญหาคือการแกว่งของราคาในตลาดอาจทำให้นักเล่นหุ้นมือใหม่หวั่นไหวได้ พอเห็นราคาลงแล้ว อย่าเพิ่งรีบขายกันนะนักลงทุนมือใหม่ อาจจะส่งผลให้ขาดทุนถาวรได้ ควรตรวจสอบข่าวสารให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจ หรือถ้ากำลังมองหาผลประโยชน์ของการลงทุนที่สม่ำเสมอ การพึ่งพาผู้เชี่ยวชาญมาลงทุนให้ เลือกลงทุนในกองทุนหุ้นรวมก็เป็นอีกตัวเลือกที่ดี

(1) กองทุนรวม /กองทุนดัชนี

กองทุนรวมดัชนี คือกองทุนหุ้นรวมที่มีนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์ทั้งหมดที่ประกอบกันเป็นดัชนี ดัชนีที่ว่าคือค่าทางสถิติแสดงการเปลี่ยนแปลงราคาเฉลี่ยโดยรวมของหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปใหญ่ ๆ ในประเทศซึ่งกำหนดภาพรวมเศรษฐกิจ 

การเลือกกองทุนรวม ต้องพิจารณาค่าธรรมเนียมการดำเนินการต่าง ๆ อาทิ ค่าบริหารจัดการ ค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ดูแลกองทุน ค่าทะเบียน และอื่น ๆ ร่วมกับค่าธรรมเนียมซื้อขายหลักทรัพย์

กองทุนดัชนีที่แนะนำ มีดังต่อไปนี้

• JPN225: ดัชนีที่สำคัญของหุ้นญี่ปุ่น ประกอบด้วยบริษัทมูลค่าสูงถึง 225 บริษัท เช่น Sony, Nissan, และ Toyota
• US30: ดัชนีราคาหุ้นที่เก่าแก่รองจากดัชนี Dow Jones รวบรวมหลากหลายบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำอย่าง Apple หรือ Microsoft และมีบริษัทประเภทอื่นซึ่งมีการดำเนินการแบบข้ามชาติเช่น Coca-Cola
• FR40: ดัชนีราคาหุ้นที่สำคัญ 40 ตัวในตลาดหลักทรัพย์ยูโรเน็กซ์ปารีสที่มีมูลค่าซื้อขายรายวันสูงติดอันดับโลก

(2) เลือกหุ้นแต่ละตัว เปิดพอร์ตหุ้น

นักเล่นหุ้นมือใหม่ ใช้เงินสัก 500 บาท ก็สามารถสร้างผลตอบแทนให้ตัวเองได้ ดังนั้นจึงขอแนะนำ 3 หุ้นต่อไปนี้ที่ราคาเข้าเกณฑ์ และมีแนวโน้มที่ราคาหุ้นจะเพิ่มสูงขึ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 

• IRPC: บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด เดิมชื่อบริษัทอุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด หรือ ทีพีไอ ผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมปิโตรเคมีครบวงจรแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีบริษัทในเครือมากมาย — มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดประมาณ 81,328.99  ล้านบาท
• WHA: บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้บริการแก่ลูกค้าในด้านโลจิสติกส์ การพัฒนานิคมอุตสาหกรรม สร้างคลังสินค้าหรือโรงงานตามความต้องการของลูกค้า จัดการระบบสาธารณูปโภคและพลังงานอย่างครบวงจร ให้บริการทางดิจิตัลเชื่อมต่อสายเคเบิ้ลใยแก้วนำแสง และพื้นที่ศูนย์ข้อมูล เมื่อธุรกิจผลิตสินค้าล้วนต้องการพึ่งพาโลจิสติกส์ บริษัทนี้จึงมองข้ามไม่ได้เลย — มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดประมาณ 55,303 ล้านบาท
• MACO: บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) คือผู้นำสื่อโฆษณากลางแจ้งทั้งภาพนิ่งและสื่อดิจิทัลที่ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศไทยและในภูมิภาคเอเซียน ไม่ว่าเราอยู่ในบ้านหรือนอกบ้าน ผลงานของธุรกิจนี้จะต้องผ่านเข้ามาในสายตาเสมอ — มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดประมาณ 5,195  ล้านบาท

นอกจากนี้อาจจะลองมองหาหุ้นในตลาดสหรัฐอเมริกา สำหรับการลงทุนทั้งในแบบเข้าซื้อเพื่อถืออยู่ในพอร์ต หรือหากองทุนรวมที่เข้าถือหุ้นดังกล่าวซึ่งช่วยลดความยุ่งยากในการซื้อหุ้นระหว่างประเทศลงไป รวมไปถึงนักเล่นหุ้นอาจจะลองลงทุนในสัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD Broker) ซึ่งเข้าลงทุนไม่ยุ่งยาก เริ่มลงทุนได้ทันทีที่ฝากเงินเข้าบัญชีของทางโบรกเกอร์ หุ้นในสหรัฐอเมริกาที่แนะนำ ตลาดมาแรงในช่วงนี้คือหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและอีคอมเมิร์ซ 

• AAPL: Apple บริษัทธุรกิจคอมพิวเตอร์ที่ปฏิวัติวงการเทคโนโลยีมาตั้งแต่ยุค 70 มีชื่อเสียงด้วยผลิตภัณฑ์ เช่น ไอโฟน ไอแพต และร้านขายเพลงออนไลน์ไอทูนส์ มีทั้งร้านและช่องทางออนไลน์จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ นับแต่เข้าจดทะเบียนเมื่อ 40 ปีที่ผ่านมามูลค่าตลาดสูงขึ้นเท่าตัว ในเดือนสิงหาคม 2561 มูลค่าหลักทรัพย์ทะลุ 1 ล้านล้าน — มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดประมาณ 2.63 ล้านล้านบาท
• AMZN: Amazon ผู้บุกเบิกการขายหนังสือดิจิตัลที่มีผู้ใช้งานทั่วโลกผู้ให้บริการเว็บไซด์อีคอมเมิร์ซซึ่งเป็นตัวกลางให้ผู้ซื้อขายจำนวนมากได้มาซื้อขาย มีจุดกระจายสินค้าครอบคลุมในหลายประเทศ บริษัทติดอันดับมูลค่าสูงที่สุดในโลก ในปี 1994 และยังพัฒนาต่อเนื่อง นับเป็นหนึ่งหุ้นในตำนานที่ให้ผลตอบแทนดีอย่างสม่ำเสมอ ปัจจุบันมีธุรกิจ Cloud หรือพื้นที่ข้อมูลที่มีลูกค้าเป็นบริษัทไอทีหลายแห่งทั่วโลก 1.83 ล้านล้านบาท
• TSLA: Tesla บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าและพลังงานสะอาดในรัฐแคลิฟอร์เนีย พัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ และมอเตอร์ ในปี 2019 บริษัทนี้ได้รับการจัดอันดับให้เป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้านั่งส่วนบุคคลที่ขายดีที่สุดในโลก และในปี 2020 ส่วนแบ่งตลาดการขายรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ในสหรัฐอเมริกาคือ 81% — มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดประมาณ 1.13 ล้านล้านบาท

สรุปแล้ว จะเลือกลงทุนกับโบรกเกอร์ไหน พิจารณาค่าธรรมเนียม และอาจจะลองศึกษาสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ในฐานะลูกค้า จะเห็นกันแล้วว่าการครอบครองหุ้น สามารถทำได้โดยตรงและโดยอ้อม เหมาะกับผู้ที่หวังปันผล หรือทำกำไรจากส่วนต่างราคาในระยะยาว แต่หากต้องการเก็งกำไรในระยะสั้น การทำกำไรบนส่วนต่างของราคาที่เคลื่อนไหวในตลาดรายนาที หรือจนถึงรายวันก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก โดยการลงทุนเริ่มต้นผ่านโบรกเกอร์สัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD Broker) สามารถเริ่มต้นได้ที่มูลค่าลงทุน 500 บาท และหลายโบรกเกอร์เรียกเก็บค่าธรรมเนียมดำเนินการหรือคอมมิชชั่นต่ำมาก หรือยกเว้นอีกด้วย

ข้อควรระวังในการเล่นหุ้น

รับการประเมินความเสี่ยงการลงทุน

ในการเปิดพอร์ต จะต้องผ่านขั้นตอนทำแบบสอบถามเพื่อประเมินความเสี่ยงการลงทุน โดยคำถามจะประกอบด้วยการถามถึงอายุ พฤติกรรมการบริหารค่าใช้จ่าย ที่มาของแหล่งรายได้ แนวโน้มท่าทีตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ทางตลาดที่มีผลกระทบต่อตลาดหุ้น เพื่อให้รู้ว่ามือใหม่เล่นหุ้น แท้ที่จริงแล้วเป็นนักลงทุนประเภทที่ยอมรับความเสี่ยงได้ระดับไหน 

การเล่นหุ้นมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาเกี่ยวกับหุ้น ประวัติบริษัทเจ้าของหุ้น และใช้วิจารณญาณในการลงทุน ประเภทความเสี่ยงที่นักลงทุนยอมรับได้ควรจะสูง รับความผันผวนของตลาดได้ ยอมรับการขาดทุนได้โดยมุ่งหวังการเติบโตของเงินลงทุนและผลตอบแทนระยะยาว

นอกเหนือจากการประเมินความเสี่ยงการลงทุน โบรกเกอร์บางเจ้ายังมีการสอบถามความรู้ความสามารถในการลงทุน เพื่อจะประเมินช่องทางเสนอแนะการให้บริการ ทั้งการอบรมความรู้ หรือนำเสนอเครื่องมือการวิเคราะห์ที่สามารถช่วยในการเข้าใจหุ้น ประเมินความเสี่ยงและผลตอบแทนในการจัดพอร์ตฟอลิโอ เพื่อกำหนดสัดส่วนการลงทุนหุ้นแต่ละตัวต่อหุ้นทั้งหมดที่มีในพอร์ตฟอลิโออย่างเหมาะสม

ศึกษารายละเอียดของหุ้นที่จะซื้อ ดูงบการเงินของแต่ละหุ้น

ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือไม่ก็ตาม หากจะพิจารณาว่าหุ้นตัวนี้น่าสนใจหรือไม่ เราจะมองไปที่งบการเงินของบริษัทนั้น ๆ ซึ่งเป็นข้อมูลเปิดเผยต่อสาธารณะชน หากคุณเข้าไปที่เว็บไซต์ของเขา ให้มองหา “นักลงทุนสัมพันธ์” หรือ “Investor Relation” นอกจากนี้ยังต้องพิจารณาถึงปัจจัยพื้นฐานด้วยว่าจะมีความสามารถในการสร้างกำไรจากตลาดในสภาวการณ์เช่นไร

หากคุณเป็นนักลงทุนแบบ Day Trade ที่มุ่งหวังการทำกำไรเพียงชั่วข้ามคืน คุณจะต้องมีความสรู้เกี่ยวกับกราฟเทคนิกเพิ่มเติมด้วย เพื่อให้ช่วยประเมินจังหวะที่ควรซื้อ หรือขายได้

สิ่งที่ควรพิจารณาในการดูงบการเงินนั้น คุณจะต้องดูทั้งจากงบกระแสเงินสด งบกำไรขาดทุน และงบดุล ในการพิจารณา คุณต้องไม่ลืมว่าจะต้องเปรียบเทียบบริษัท (หุ้น) ที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน และภายใต้ตัวแปรเดียวกันเท่านั้น เช่น หากคุณสนใจหุ้นในอุตสาหกรรมอาหาร ต้องคิดต่อด้วยว่าเป็นกลุ่มอาหารสด หรืออาหารกระป๋อง หรืออาหารแช่แข็ง ตลาดของเขา เพื่อดูว่าภายใต้เงื่อนไขใกล้เคียงกัน บริษัทใดมีความสามารถในการสร้างเงินได้มากน้อยกว่ากัน

หากนักเล่นหุ้นเรียนรู้การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานได้ดีแล้ว แต่แสวงหาความเข้าใจหุ้นในตลาดมากขึ้นเพื่อเก็งกำไรในระยะสั้น หรือวางแผนระยะยาวให้รัดกุม นักเล่นหุ้นสามารถเรียนรู้การวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิค เพื่อคาดการณ์แนวโน้มตลาดจากข้อมูลสถิติของราคาและปริมาณการซื้อขายหุ้นในอดีต และการวิเคราะห์กราฟ โดยโบรกเกอร์มักมีเครื่องมือต่าง ๆ สนับสนุนการวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิค

ติดตามข้อมูลข่าวสารหุ้นอยู่เสมอ

ราคาและปริมาณของหุ้นที่ซื้อและขายกันอยู่ในตลาด สะท้อนมุมมองของผู้ลงทุนที่มีต่อหุ้น หากนักลงทุนเชื่อมั่นในบริษัทที่ออกหุ้น ราคาจะขยับขึ้น เพราะปริมาณอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น มีผู้ที่ต้องการครอบครองหุ้นนั้น หากจับจังหวะที่ดีในการเข้าซื้อขายหุ้นที่ตลาดมีอุปสงค์ ก็จะสามารถทำการขายหุ้นเพื่อเก็งกำไรได้ ในขณะเดียวกัน ความเชื่อมั่นในบริษัทก็อาจจะตกลงด้วยข่าวสารบางอย่าง เช่น กฎหมายที่เรียกร้องให้เสียภาษีเพิ่มเติม หรือการกำหนดพฤติกรรมบางอย่างหรือผลิตภัณฑ์ของบริษัทให้ผิดกฎหมายหรือต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบเพื่ออนุญาต ซึ่งการรับทราบข่าวสารอย่างรวดเร็ว จะทำให้ตัดสินใจขายหลักทรัพย์ออกไปได้ก่อนที่ราคาจะตกลงอย่างมาก เพื่อรักษาระดับผลตอบแทนโดยเฉลี่ยที่คาดหวังไว้จากหุ้นทั้งหมดที่ถือในมือ

อย่างไรก็ตาม ราคาในระยะสั้นมีผลต่อพฤติกรรมการซื้อขายเพื่อเก็งกำไร ทำให้ราคาผันผวนตามกระแสข่าว แต่หากปัจจัยพื้นฐานของบริษัทยังแข็งแกร่ง การติดตามข่าวสารก็จะเป็นการหาช่วงเวลาเข้าซื้อหุ้นในขณะมีราคาที่ถูก เพราะหากพื้นฐานของบริษัทเข้มแข็ง ในระยะยาว ราคาหุ้นจะเติบโตตามความสามารถในการทำกำไร และประสิทธิภาพในการบริหารงานของบริษัท

ติดตั้งโปรแกรมซื้อขายหลักทรัพย์

ควรศึกษาข้อมูลจากเว็บไซด์ของทางโบรกเกอร์ หลาย ๆ โบรกเกอร์ในประเทศไทยใช้โปรแกรม Streaming แต่หากคุณจะเล่นหุ้นต่างประเทศ คุณจะใช้แพลตฟอร์มการเทรดที่ชื่อ MT4 หรือ MT5 ที่คุณจะได้ข้อมูลการล็อกอินจากโบรกเกอร์ที่คุณเปิดบัญชี

วิธีการดาวน์โหลด ติดตั้ง และใช้งานนั้น ก็เช่นเดียวกันกับแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ คุณจะใช้รหัสล็อกอินที่ได้รับจากโบรกเกอร์มาล็อกอิน ทำการฝากเงินตามขั้นตอน และเริ่มต้นเทรดได้ทันที

เทรดใน Mitrade

Mitrade โบรกเกอร์สัญชาตออสเตรเลีย บนแพลทฟอร์มของ Mitrade มีแพลตฟอร์มซื้อขายสัญญาส่วนต่าง (CFDs) หุ้นถึง 200 ตัวจากตลาดสหรัฐอเมริกา ดัชนีหุ้น 12 ตัวหลักจากทั่วโลกให้เลือก มีคู่สกุลเงินแลกเปลี่ยนถึง 60 คู่  และสินค้าโภคภัณฑ์ถึง 5 รายการ คุณสามารถทำการเทรด ติดตามข่าวสารทางการเงินได้ผ่านบล็อก ปฏิทินข่าว และยังมีแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ให้ใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย

การบริการของ Mitrade ไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการจัดการ สเปรดหรือคือช่วงการตั้งราคาซื้อขายในการลงทุนต่ำ ทำให้มีโอกาสทำกำไรมากขึ้น ถ้าเข้าซื้อวันเดียวแล้วยังทำกำไรไม่ได้ จะลงทุนข้ามคืนเพื่อดูสถานการณ์ก็ทำได้ ไม่มีค่าธรรมเนียมสำหรับการถือข้ามคืน  (Swap) 

ที่ Mitrade มีระดับเลเวอร์เลจให้คุณได้เลือกได้สูงถึง 1:200 แม้คุณจะมีงบประมาณจำกัด ก็ยังสามารถสร้างโอกาสที่จะทำกำไรในหุ้นที่น่าสนใจ หรือเข้าซื้อหุ้นได้มากกว่างบที่มีอยู่ ณ ตอนนั้น ในแต่ละครั้งที่คุณทำการเทรด คุณสามารถเลือกระดับเลเวอร์เลจได้ตามต้องการ เพื่อความคล่องตัวในการบริหารความเสี่ยง เช่นผู้เริ่มต้น คุณอาจทดสอบดูการทำงานก่อนว่าที่ระดับ 1:1 นั้นผลจะเป็นเช่นไร แล้วค่อย ๆ เพิ่มระดับขึ้นไปเมื่อคุณสามารถจับแนวโน้มการทำงานได้ดีขึ้น และคุณสามารถเลือกระดับที่สูงที่สุดได้ หากคุณมั่นใจในการทำกำไรของหุ้นตัวนั้น ๆ

สำหรับผู้เริ่มต้น เราขอแนะนำ ซึ่งคุณจะได้รับเงินเสมือนถึง 50,000 USD ทดลองฝีมือ จับทิศทางตลาดก่อนเริ่มต้นสู่สนามจริง ด้วยเงินทุนจริง ๆ ดังนั้น มือใหม่เริ่มเล่นหุ้น ต้องเริ่มต้นกี่บาท? จะต่ำเพียง 0 บาทนั่นเอง

หากคุณพร้อมแล้ว อย่ารีรออะไรอีกเลย การลงทุนมีความเสี่ยงก็จริง แต่ถ้าเรามีความรู้ ความเสี่ยงก็จะน้อยลง!